เมนู

วรรคที่ 22


ปรินิพพานกถา


[1855] สกวาที การที่พระอรหันต์ยังไม่ละสัญโญชน์บางอย่าง
แล้วปรินิพพาน มีอยู่หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. การที่พระอรหันต์ยังไม่ละสักกายทิฏฐิ ฯลฯ ยังไม่ละ
อโนตตัปปะบางอย่างแล้วปรินิพพาน มีอยู่หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1856] ส. การที่พระอรหันต์ยังไม่ละสัญโญชน์บางอย่างแล้ว
ปรินิพพาน มีอยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระอรหันต์ยังมีราคะ ฯลฯ ยังมีกิเลสอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. พระอรหันต์หมดราคะแล้ว ฯลฯ หมดกิเลสแล้ว มิใช่
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า พระอรหันต์หมดราคะแล้ว ฯลฯ หมดกิเลส
แล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่า การที่พระอรหันต์ยังไม่ละสัญโญชน์บางอย่างแล้ว
ปรินิพพานมีอยู่.
[1857] ป. ไม่พึงกล่าวว่า การที่พระอรหันต์ยังไม่ละสัญโญชน์
บางอย่าง แล้วปรินิพพานมีอยู่ หรือ ?

ส. ถูกแล้ว.
ป. พระอรหันต์รู้พุทธวิสัยทั้งปวง หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ถ้าอย่างนั้น การที่พระอรหันต์ยังไม่ละสัญโญชน์
บางอย่าง แล้วปรินิพพานก็มีอยู่ น่ะสิ.
ปรินิพพานกถา จบ

อรรถกถาปรินิพพานกถา


ว่าด้วย ปรินิพพาน


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องปรินิพพาน. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็น
ผิดดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายว่า พระอรหันต์ มีสัญโญชน์ที่ยัง
ไม่ละในวิสัยของพระสัพพญญูพุทธะย่อมปรินิพพานฉะนั้นการปรินิพพาน
โดยไม่ละซึ่งสัญโญชน์อย่างใดอย่างหนึ่งจึงมีอยู่ ดังนี้ คำถามของสกวาที
มุ่งถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือในที่นี้ มีนัยดัง
ที่กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล.
อรรถกถาปรินิพพานกถา จบ